หนึ่งคำถามที่ผู้ที่มีแผนเดินทางมาที่ญี่ปุ่นมักสงสัยว่า มาอยู่ญี่ปุ่นจำเป็นต้องเปิดบัญชีธนาคารหรือไม่? การมาใช้ชีวิตที่ญี่ปุ่นในฐานะชาวต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน, พนักงาน, หรือผู้ที่ย้ายมาอยู่กับครอบครัว การมีบัญชีธนาคารเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง ไม่ใช่แค่เพื่อความสะดวกสบายเท่านั้น แต่ยังเป็นกุญแจสำคัญในการจัดการการเงินในชีวิตประจำวันอย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย
ปกติเราจะใช้บัญชีธนาคารทำอะไรบ้าง?
1. รับเงินเดือนหรือทุนการศึกษา
สำหรับท่านที่กำลังจะเดินทางมาทำงานที่ประเทศญี่ปุ่น บริษัทส่วนใหญ่ในญี่ปุ่นจะจ่ายเงินเดือนให้กับพนักงานผ่านการโอนเข้าบัญชีธนาคารเท่านั้น และสถาบันการศึกษาหลายแห่งอย่างมหาวิทยาลัยและองค์กรต่างๆ ก็ใช้วิธีเดียวกันในการจ่ายทุนการศึกษา สำหรับท่านที่เดินทางไปแลกเปลี่ยนเรียนภาษาญี่ปุ่นที่ญี่ปุ่นเองก็อาจจะต้องรับเงินผ่านการโอนเงินต่างประเทศเช่นกัน ดังนั้นการมีบัญชีธนาคารจึงเป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญในการรับเงินที่เป็นรายได้หลักของคุณ
2. ชำระค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
หนึ่งเหตุผลที่สำคัญอย่างยิ่งคือ การชำระค่าเช่าที่พัก โดยปัจจุบันที่ญี่ปุ่นวิธีการชำระค่าเช่าที่เป็นที่นิยมมากที่สุดเป็นวิธีการหักค่าเช่าผ่านบัญชีของผู้เช่าอัตโนมัติในมุกเดือน นอกจากนั้นแล้วการชำระค่าสาธารณูปโภค (ค่าน้ำ, ค่าไฟ, ค่าแก๊ส) และค่าโทรศัพท์มือถือ มักจะต้องชำระผ่านระบบหักบัญชีอัตโนมัติ (口座振替 – Kōza Furikae) หรือการโอนเงิน (振込 – Furikomi) ซึ่งสะดวกและปลอดภัยกว่าการใช้เงินสด ผู้เช่าไม่ต้องดำเนินการโอนในแต่ละเดือนเพียงแค่สมัครบริการในตอนที่ทำสัญญาหรือหลังเข้าพัก
3. การโอนเงินและรับโอนเงิน
หากคุณต้องการส่งเงินกลับบ้านหรือรับเงินจากต่างประเทศ การมีบัญชีธนาคารในญี่ปุ่นจะช่วยให้กระบวนการนี้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถใช้โอนเงินให้กับเพื่อนหรือชำระค่าสินค้าและบริการต่าง ๆ ได้สะดวก รวมทั้งการโอนเงินผ่านแอพพลิเคชั่นในปัจจุบันมีหลากหลายและสามารถรับส่งเงินได้รวดเร็วมากขึ้น
4. การจัดการเงินอย่างปลอดภัย
แม้จะถือว่าญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ปลอดภัย แต่การเก็บเงินสดจำนวนมากไว้ที่พักก็ยังมีความเสี่ยงต่อการสูญหายได้ การฝากเงินไว้ในบัญชีธนาคารไม่เพียงแต่ปลอดภัย แต่ยังช่วยให้คุณสามารถติดตามและจัดการการใช้จ่ายได้ง่ายขึ้นผ่านแอปพลิเคชันธนาคารบนมือถืออีกด้วย
5. สมัครบริการทางการเงินอื่น ๆ ได้ง่ายขึ้น
หลายท่านอาจจะเคยได้ยินว่าที่ญี่ปุ่นต้องมีการดำเนินเอกสารต่างๆเยอะ แต่ว่าปัจจุบันสามารถผูกข้อมูลบัญชีหลายธนาคารในญี่ปุ่นผ่านระบบออนไลน์ได้ การมีบัญชีธนาคารอาจเป็นเงื่อนไขพื้นฐานในการสมัครบริการทางการเงินอื่น ๆ เช่น บัตรเครดิต, การเติมเงินเข้าแอพพลิเคชั่นต่างๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น PayPay และ การลงทุนต่าง ๆ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการใช้ชีวิตและการเงินของคุณในญี่ปุ่น
แนะนำการเปิดบัญชีที่ธนาคาร
การเปิดบัญชีธนาคาร Yucho (ゆうちょ銀行) หรือ Japan Post Bank เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับชาวต่างชาติในญี่ปุ่น เนื่องจากเป็นธนาคารที่เข้าถึงได้ง่าย มีสาขาและตู้ ATM อยู่ที่ที่ทำการไปรษณีย์ทั่วประเทศ และขั้นตอนการเปิดบัญชีไม่ซับซ้อนสำหรับต่างชาติ
เอกสารที่ต้องเตรียม
- บัตรประจำตัวผู้พำนัก (在留カード – Zairyū Kādo): เป็นเอกสารสำคัญที่สุดที่แสดงสถานะการพำนักในญี่ปุ่นของคุณ และต้องมีการลงทะเบียนที่อยู่ปัจจุบันของคุณที่ด้านหลังบัตรเรียบร้อยแล้ว
- หนังสือเดินทาง (Passport): สำหรับยืนยันตัวตนและข้อมูลส่วนบุคคล
- ตราประทับ (印鑑 – Inkan/Hanko): แม้ว่าบางธนาคารจะอนุญาตให้ใช้ลายเซ็นแทนได้ แต่การมีตราประทับเป็นของตัวเองจะช่วยให้การทำธุรกรรมต่าง ๆ ง่ายขึ้น ตราประทับสามารถทำได้ที่ร้านทำตราประทับทั่วไปโดยใช้ชื่อของคุณในอักษรคาตาคานะ
- เอกสารยืนยันตัวตนอื่น ๆ (ถ้ามี): เช่น บัตรนักเรียน (Student ID Card), บัตรพนักงาน (Employee ID Card) หรือเอกสารรับรองการทำงาน/การเข้าศึกษา
ขั้นตอนการเปิดบัญชี
- เลือกสาขา: คุณสามารถไปที่ทำการไปรษณีย์หรือสาขาของธนาคาร Yucho ที่ใกล้ที่สุดได้ โดยทั่วไปควรไปที่สาขาที่อยู่ในเขตเดียวกันกับที่อยู่ปัจจุบันของคุณ
- แจ้งความประสงค์: เมื่อไปถึง ให้แจ้งพนักงานว่า “口座を開設したいです” (Kōza wo kaisetsu shitai desu) หรือ “ฉันต้องการเปิดบัญชี“
- กรอกแบบฟอร์ม: พนักงานจะให้แบบฟอร์มสำหรับเปิดบัญชี ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นภาษาญี่ปุ่น แต่ก็มีแบบฟอร์มที่เป็นภาษาอังกฤษหรือภาษาอื่น ๆ ให้เลือกด้วย คุณจะต้องกรอกข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ-นามสกุล (ทั้งภาษาอังกฤษและคาตาคานะ), ที่อยู่, เบอร์โทรศัพท์, อาชีพ/สถานะ (นักเรียน, พนักงาน) และวัตถุประสงค์ในการเปิดบัญชี
- ยื่นเอกสารและยืนยันตัวตน: ส่งแบบฟอร์มที่กรอกเสร็จแล้วพร้อมกับเอกสารที่เตรียมมาทั้งหมดให้พนักงานตรวจสอบ
- รับสมุดบัญชี: หลังจากที่เอกสารได้รับการตรวจสอบและอนุมัติแล้ว คุณจะได้รับสมุดบัญชี (通帳 – Tsūchō) ทันทีในวันนั้นเลย
- รอรับบัตร ATM: โดยปกติแล้ว บัตร ATM (キャッシュカード – Kyasshu Kādo) จะถูกส่งมาทางไปรษณีย์แบบลงทะเบียนถึงที่อยู่ของคุณภายใน 1-2 สัปดาห์
ข้อควรรู้เพิ่มเติม
- ระยะเวลาพำนัก: โดยทั่วไปแล้ว ชาวต่างชาติที่เพิ่งย้ายมาอยู่ญี่ปุ่นไม่ถึง 6 เดือนอาจมีข้อจำกัดบางอย่างในการทำธุรกรรมทางการเงิน เช่น การโอนเงินอาจมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม แต่เมื่อเทียบกับธนาคารอื่นแล้วธนาคาร Yucho ยังเป็นที่ที่ค่อนข้างยืดหยุ่นกว่าธนาคารอื่น ๆ
- ภาษา: พนักงานส่วนใหญ่ที่ที่ทำการไปรษณีย์อาจไม่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้คล่องนัก หากคุณไม่มั่นใจในภาษาญี่ปุ่น ควรหาเพื่อนที่พูดภาษาญี่ปุ่นได้ไปเป็นเพื่อน หรือใช้แอปแปลภาษาช่วย
- ประเภทบัญชี: บัญชีส่วนใหญ่ที่เปิดจะเป็นบัญชีออมทรัพย์ (普通預金 – Futsū Yokin) ซึ่งสามารถฝาก–ถอนได้ตลอดเวลา
แนะนำการเปิดบัญชีแบบออนไลน์
ชมรายละเอียดภาษาอังกฤษได้ที่ お手続きの流れ-ゆうちょ銀行