เมื่อเราต้องจากประเทศบ้านเกิดเพื่อมาใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลเพื่อเรียนต่อ ทำงาน หรือลงหลักปักฐาน สร้างครอบครัว ทุกคนล้วนมีเส้นทางและเป้าหมายที่แตกต่างกัน รวมถึงความรู้สึกในช่วงแรกของการใช้ชีวิตที่นี่เองก็ไม่เหมือนกัน บางคนอาจรู้สึกสนุกที่ได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็อาจเกิดอาการคิดถึงบ้าน (Homesick)
ในประเทศที่มีสภาพแวดล้อม ภาษา และวัฒนธรรมที่แตกต่าง การใช้ชีวิตจึงต้องอาศัยทั้งความเข้าใจและการปรับตัว เพื่อให้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างราบรื่น
บทความนี้ LandHousing จะพาคุณมาทำความเข้าใจการปรับตัวเมื่อต้องใช้ชีวิตในญี่ปุ่น พร้อมทั้งแบ่งปันมุมมองที่จะช่วยให้คุณใช้ชีวิตในต่างแดนได้อย่างมั่นใจมากขึ้น ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันเลยค่ะ
1) การเตรียมตัวก่อนมาอยู่ญี่ปุ่น

รูปภาพจากบทความ : New ญี่ปุ่นรออยู่! เตรียมตัวให้พร้อมก่อนไปเรียนต่อหรือทำงาน
ก่อนเดินทางควรเตรียมเอกสารสำคัญ เช่น ตั๋วเครื่องบิน, Passport (ตัวจริงและสำเนา), วีซ่า, ใบ COA หรือ เอกสารการจ้างงาน (สำหรับคนที่ไปทำงาน), ใบ COE หนังสือรับรอง, สลิปเงินเดือน, ข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลผู้ติดต่อฉุกเฉิน, ประกันสุขภาพ เป็นต้น ของที่แนะนำให้พกมาจากไทย เช่น เสื้อผ้าที่เหมาะกับฤดูกาล ของใช้ส่วนตัว ตำราเรียน และอื่นๆ ที่จำเป็นสำหรับจุดประสงค์ในการมาประเทศญี่ปุ่น ยาแก้หวัด ยาลดไข้ (คลิกเพื่ออ่านสรุป NEW ! ยาต้องห้ามนำเข้าประเทศญี่ปุ่น)
การหาที่อยู่อาศัยในญี่ปุ่นแตกต่างจากไทยที่เพียงยืนยันตัวตนว่าเป็นใคร อยู่ที่ไหน ทำอาชีพอะไร มีเงินจ่ายค่ามัดจำได้ก็สามารถเช่าห้องพัก/คอนโดได้ แต่ในญี่ปุ่นขั้นตอนที่จะเกิดขึ้นแน่นอน คือ ขั้นตอน “ชินสะ” (審査) หรือกระบวนการตรวจสอบผู้เช่า มีการตรวจสอบ 3 ขั้น ได้แก่ บริษัทที่ดูแลห้อง บริษัทค้ำประกัน และเจ้าของห้อง เพื่อให้เจ้าของห้องสามารถปล่อยห้องให้เช่าได้อย่างวางใจ โดยทั่วไปการหาที่พักควรหาล่วงหน้า 1 เดือน – 1เดือนครึ่ง หมดกังวลเรื่องการหาที่พัก/คอนโด ให้ LandHousing หาห้องที่ผ่านง่ายกันเถอะ !
2) สภาพอากาศและสุขภาพ

รูปภาพจากบทความ : New ญี่ปุ่นรออยู่! เตรียมตัวให้พร้อมก่อนไปเรียนต่อหรือทำงาน
ประเทศญี่ปุ่นมี 4 ฤดูกาลที่สภาพอากาศแตกต่างกันอย่างชัดเจน คือ ฤดูใบไม้ผลิ (春 haru) ฤดูร้อน (夏 natsu) ฤดูใบไม้ร่วง (秋 aki) และ ฤดูหนาว (冬 fuyu) ควรแต่งกายให้เหมาะสมกับสภาพอากาศในแต่ละวัน โดยเฉพาะช่วงหน้าหนาวและช่วงที่มีละอองเกสร ทำให้บางคนมีอาการแพ้เกสรดอกไม้ (花粉症 kafunshou) อาการทั่วไป ได้แก่ อาการทางจมูก เช่น จาม น้ำมูกไหล และอาการทางตา เช่น ตาคันและตาแดง สิ่งที่สะดวกมากๆ ก็คือ คุณสามารถตรวจสอบสภาพอากาศได้จากข่าวในโทรทัศน์หรือเว็บไซต์พยากรณ์อากาศในเขตพื้นที่ที่อยู่อาศัยได้เลย เพราะพยากรณ์อากาศในญี่ปุ่นมีความแม่นยำ หากเกิดเจ็บป่วยหรือเกิดการบาดเจ็บที่ทำให้ต้องไปโรงพยาบาล การทำประกันสุขภาพเป็นสิ่งที่ควรพิจารณาอย่างยิ่งเมื่อต้องมาอาศัยอยู่ที่ญี่ปุ่น
3) ความแตกต่างทางวัฒนธรรมที่ควรรู้

ญี่ปุ่นมีวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งได้รับอิทธิพลอย่างมากจากประเพณีดั้งเดิมในอดีต และนวัตกรรมสมัยใหม่ แนวทางปฏิบัติทางวัฒนธรรมที่เป็นที่นิยมในญี่ปุ่น ได้แก่ พิธีชงชา การจัดดอกไม้ การเขียนพู่กัน และศิลปะการต่อสู้ หลายๆ คนอาจมีความชอบวัฒนธรรมญี่ปุ่นอยู่แล้วจึงพอทราบเกี่ยวกับมารยาทที่ควรปฏิบัติในญี่ปุ่น เช่น การไม่ส่งเสียงดังในที่สาธารณะ ไม่คุยโทรศัพท์บนขนส่งสาธารณะ การต่อคิวอย่างเป็นระเบียบ การแยกและทิ้งขยะให้ถูกต้อง และความเกรงใจ ไม่สร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นเป็นพื้นฐานสำคัญของสังคมญี่ปุ่น วัฒนธรรมที่แตกต่างจากไทยอย่างเห็นได้ชัด เช่น ญี่ปุ่นไม่มีวัฒนธรรมการให้ทิป การซู้ดเส้นบะหมี่ยิ่งเสียงดังยิ่งดี (เป็นการชมว่าอาหารอร่อยมาก) การเปลี่ยนรองเท้าตอนเข้าห้องน้ำเพื่อความสะอาด และการเตรียมของฝากหรือของขวัญไปด้วยเมื่อถูกเชิญไปบ้าน เป็นต้น คลิกเพื่ออ่านบทความเกี่ยวกับกิจกรรมในวันสำคัญของญี่ปุ่น ‘Experience the best of Japan, no matter the season’
4) การใช้ชีวิตประจำวัน

ระบบขนส่งสาธารณะในญี่ปุ่น นอกจากใช้เงินสดแล้ว การใช้บัตร Suica หรือ Pasmo ช่วยประหยัดเวลาในการซื้อตั๋วโดยสาร และสะดวกมากโดยสามารถใช้จ่ายบัตรนี้ที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตและร้านสะดวกซื้อทั่วไปได้ เป็นที่พึ่งเวลาเร่งรีบได้จริงๆ หรือบางคนใช้งานแอปพลิเคชั่นสแกนจ่ายอย่าง PayPay โดยการผูกบัตรเครดิตหรือเติมเงินเข้าไปในแอปล่วงหน้าก็สะดวกและรวดเร็วเช่นกัน หากยังไม่รู้จะเริ่มจากอะไรดี ลองอ่านบทความ 5 แอปโหลดฟรี! ช่วยให้ชีวิตในญี่ปุ่นง่ายขึ้นสำหรับทุกคน เป็นไอเดียดูก่อนก็ได้ค่ะ
อีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญ คือ ที่ญี่ปุ่นการแยกขยะตามเมืองต่างๆ ละเอียดกว่าที่ประเทศไทย สำหรับผู้ที่เพิ่งย้ายมาอยู่ที่ญี่ปุ่นการแยกและทิ้งขยะตามกฎของญี่ปุ่นอาจเป็นสิ่งใหม่และไม่คุ้นเคย แต่เมื่อได้ทำความเข้าใจ แล้วปฏิบัติอย่างต่อเนื่องก็จะค่อยๆ กลายเป็นความเคยชินและวินัยที่ดี คลิกเพื่ออ่าน กฎและวิธีแยกขยะในญี่ปุ่น เรื่องที่คนมาอยู่ญี่ปุ่นต้องรู้ (อธิบายอย่างละเอียด) ได้เลย!
5) ภาษาและการสื่อสาร

แม้จะอาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ แต่การใช้ภาษาญี่ปุ่นขั้นพื้นฐานเป็นสิ่งจำเป็น โดยเฉพาะตามสถานที่ราชการหรือคลินิก คำศัพท์ที่ใช้ได้ทุกวันอย่าง すみません (sumimasen ขอโทษค่ะ/ครับ) お願いします (onegaishimau รบกวนด้วยค่ะ/ครับ) และ ありがとうございます (arigatou gozaimasu ขอบคุณค่ะ/ครับ) ช่วยให้การสื่อสารราบรื่นขึ้น หลายคนอาจทราบดีอยู่แล้วว่าคนญี่ปุ่นที่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ไม่ได้อยู่ในทุกสถานที่ที่ไป การอยู่ญี่ปุ่นนานขึ้นยิ่งทำให้เห็นว่าภาษาญี่ปุ่นสำคัญต่อการใช้ชีวิตประจำวัน สำหรับผู้ที่ชอบเรียนภาษาญี่ปุ่น การได้มีโอกาสมาใช้ชีวิตที่ญี่ปุ่นถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดในการพัฒนาทั้งทักษะภาษาและทักษะการใช้ชีวิตจริง แม้ว่าภาษาญี่ปุ่นจะขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในภาษาที่เรียนยาก แต่หากเรามีเป้าหมายที่ชัดเจนและไม่ยอมแพ้ ก็จะสามารถพัฒนาตัวเองได้อย่างต่อเนื่อง และคุณค่าของการเรียนรู้ภาษานี้จะส่งผลดีต่ออนาคตของเราอย่างแน่นอน
6) การทำงานในญี่ปุ่น

เนื่องจากประเทศญี่ปุ่นมีวัฒนธรรมการทำงานที่แตกต่างจากประเทศอื่นๆ เช่น การให้ความสำคัญกับการทำงานเป็นทีม การตรงต่อเวลา (การไปถึงก่อนเวลานัด 10 นาที) การรายงาน-ปรึกษา-แจ้งข้อมูล (報連相 hourensou) และการไม่พูดตรงจนเกินไป บางครั้งพนักงานต่างชาติจะเจอความกดดัน สิ่งสำคัญคือการถามเมื่อไม่เข้าใจหรือไม่รู้ การคุยเรื่องสัพเพเหระเพื่อไม่ให้บรรยากาศตึงเครียดจนเกินไป ช่วยให้การทำงานราบรื่น โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มาทำงานที่ประเทศญี่ปุ่น นอกจากเรื่องการเข้า-ออกงาน การแต่งกายหรือการใช้งานสถานที่ภายในองค์กรแล้ว การสอบถามทางผู้รับผิดชอบหรือหัวหน้าเกี่ยวกับวัฒนธรรมการทำงานในองค์กร หรือ กฎที่ไม่ได้มีเขียนไว้ในกฎระเบียบบริษัท (暗黙のルール anmoku no ruuru) ก็เป็นสิ่งที่ช่วยให้รู้ว่าต้องเตรียมรับมือกับเรื่องใดและป้องกันไม่เกิดปัญหาในภายหลังได้
7) ความเหงา

การอาศัยอยู่ในประเทศที่ไม่ใช่บ้านเกิด ไม่ว่าจะที่ใดก็ตาม อาจทำให้รู้สึกโดดเดี่ยวได้ สังคมญี่ปุ่นแม้จะปลูกฝังเรื่องความสามัคคี แต่ก็มีอีกมุมหนึ่งที่รู้สึกโดดเดี่ยวเช่นกัน ซึ่งขึ้นอยู่กับบุคลิกของแต่ละคน บางคนอาจไม่ถนัดการเข้าสังคมหรือพูดคุยกับคนแปลกหน้า ในขณะที่บางคนยินดีที่จะทำความรู้จักกับผู้คนใหม่ๆ การเข้าร่วมกิจกรรมของชุมชน หรือเข้าร่วมกลุ่มชาวต่างชาติในญี่ปุ่นสามารถช่วยลดความเหงาได้เป็นอย่างดี การหาเพื่อนชาวญี่ปุ่นอาจต้องใช้เวลาแต่ก็คุ้มค่า เพราะช่วยให้เข้าใจวัฒนธรรมและการใช้ชีวิตที่แตกต่างมากขึ้น คุณสามารถค่อยๆ ให้เวลา เปิดใจ และปรับตัวได้นะคะ
และนี่ก็คือ การปรับตัวเมื่อต้องใช้ชีวิตในญี่ปุ่น ที่จะเป็นตัวช่วยให้การยู่ที่ญี่ปุ่นของคุณราบรื่นขึ้น ตั้งแต่การเตรียมตัวก่อนมาอยู่ญี่ปุ่นนั่นเองค่า✨
หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกคนนะคะ ในบทความถัดไป LandHousing จะนำเสนอข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับอะไร รอติดตามกันได้ที่นี่เลย ^^
ส่วนท่านใดที่กำลังมองหาห้องเช่าในญี่ปุ่น LandHousing ยินดีที่จะแนะนำที่พักให้ตรงกับความต้องการของทุกท่าน สามารถทักมาปรึกษา LandHousing ที่มีประสบการณ์มากว่า 30 ปีได้เลย
ข้อมูลอ้างอิง อาการแพ้เกสรดอกไม้















