ถ้าพูดถึงเดือนเมษายนแล้วก็ถึงช่วงเข้าสู่ฤดูกาลเริ่มภาคเรียนใหม่ที่ญี่ปุ่น หลังจากที่หลายท่านได้โรงเรียนที่จะไปเรียนต่อกันแล้ว ขั้นตอนต่อไปที่สำคัญก็คือ “การหาที่พัก” นั่นเอง

สำหรับหลายท่านที่กำลังมองหาที่พักและมีแพลนอาศัยในญี่ปุ่นเป็นเวลานานเช่น 2 ปีขึ้นไปอีกทางเลือกนอกจากการเช่าแล้วนั้น ทุกคนยังมี “การซื้อ” เป็นอีกทางเลือกอีกด้วย วันนี้เราจึงจะลองมาเปรียบเทียบในกรณีที่หาบ้านที่ญี่ปุ่นกันว่า “ระหว่างการเช่ากับการซื้อแบบไหนจะคุ้มกว่ากัน”

เราสามารถซื้ออสังหาฯที่ญี่ปุ่นได้จริงหรอ？

หลายท่านอาจยังไม่ทราบว่า สำหรับที่ญี่ปุ่นแล้วไม่มีกฎหรือข้อบังคับในการซื้ออสังหาฯที่ญี่ปุ่นของชาวต่างชาติใดๆทั้งสิ้น

ไม่ใช่แค่คอนโดมิเนียมเท่านั้น แต่เรายังสามารถซื้อบ้านเดี่ยว อพาร์ทเม้นท์ รวมถึงที่ดินได้อีกด้วย

2019.11.26

ชาวต่างชาติซื้อบ้านที่ญี่ปุ่นได้จริงหรือ!?

ชาวต่างชาติสามารถซื้ออสังหาฯได้ทุกประเภทในญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นเพื่อการลงทุน หรือบ้านมือสองเพื่อการอยู่อาศัยเอง เพราะการซื้อขายอสังหาฯในประเทศญี่ป...

เราจะเริ่มจากการเปรียบเทียบตัวอย่างแมนชั่นแถววาเซดะในโตเกียวกัน

ราคาของห้องนี้

เปรียบเทียบเงินที่จะต้องจ่ายในช่วงเรียนต่อกัน

• เรียนต่อที่ญี่ปุ่น 2 ปี

• เรียนต่อที่ญี่ปุ่น 4 ปี

           ถ้ามองแค่ผ่านๆ หลายท่านอาจคิดว่าค่าใช้จ่ายในการซื้อดูราคาสูง แต่ทว่าลองคิดในมุมที่ว่า เมื่อเวลาผ่านไปนานขึ้น ค่าใช้จ่ายในการเช่าก็ย่อมจะสูงขึ้นเช่นกัน จำนวนเงินที่ต้องจ่ายให้กับเจ้าของนั้นจะสูงถึง 13-24% ของค่าใช้จ่ายในการซื้อเลยทีเดียว และสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือว่า ค่าเช่าที่จ่ายไปทุกเดือนนั้นจะไม่ได้กลับคืนมา แต่อสังหาฯที่ซื้อแล้วนั้นจะกลายเป็นทรัพย์สินของท่านเอง

ลองคำนวณจากหลังจากที่ซื้อไปแล้ว 4 ปี สรุปว่า...

โดยจะเห็นได้ว่า การซื้อแล้วขายทีหลังนั้นคุ้มกว่าการเช่าถึง 2,600,000 เยนเลยทีเดียว

ผู้ปกครองท่านใดที่มองหาบ้านให้กับบุตรหลานไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่น หรือท่านใดที่สนใจการลงทุนในอสังหาฯที่ญี่ปุ่น สามารถติดต่อมาสอบถามพวกเราได้ตามลิ้งค์นี้เลย หรือโทร 02-048-2271  ได้เลย พวกเรายังมีข้อมูลห้องพักหลากหลายย่านใกล้โรงเรียนพร้อมให้คำปรึกษา