ถ้าพูดถึง “ตั๋วนั่งรถไฟ/รถบัสรายเดือน” หลายคนอาจจะนึกถึง บัตรแรบบิทของไทย แต่วันนี้เราจะมาดูกันว่า ตั๋วรายเดือนของญี่ปุ่นต่างกับที่ไทยอย่างไร
การใช้เบื้องต้น
ตั๋วรายเดือนของรถไฟฟ้าที่ไทยจะกำหนดเป็นจำนวนรอบที่ต้องใช้ในแต่ละเดือน แต่ว่าของที่ญี่ปุ่นจะกำหนดเป็น ระยะเวลาในการใช้และระยะทางของสถานีที่ขึ้นและลง แต่จะไม่จำกัดจำนวนรอบ เพราะฉะนั้นในช่วงระยะเวลาของบัตรนั้น ผู้ใช้จะนั่งไปกลับตามสถานีที่ระบุบนบัตรกี่รอบก็ได้ โดยจะไม่มีค่าโดยสารชาร์จเพิ่ม
ประเภทของบัตร
โดยหลักๆบัตรรายเดือนนี้จะต้องซื้อที่สถานีของรถไฟสายนั้น อย่างเช่นในโตเกียว ก็จะมีบัตรของ Suica และ PASMO ประเภทของบัตรและราคาจะแบ่งตามอายุและสถานะของผู้ใช้ จากสูงสุดไปต่ำสุดตามลำดับ
- บัตรสำหรับการเดินทางไปทำงาน
- บัตรสำหรับการเดินทางไปเรียน
- บัตรสำหรับการเดินทางไปเรียน (เฉพาะมัธยมปลาย)
- บัตรสำหรับการเดินทางไปเรียน (เฉพาะมัธยมต้น)
ช่องทางการซื้อ
- ซื้อผ่านตู้จำหน่ายตั๋ว แต่การซื้อแบบนี้จะเป็นบัตรประเภทไม่ลงทะเบียน เมื่อทำสูญหายจะไม่สามารถขอออกตั๋วใหม่ได้ และในกรณีที่เป็นนักเรียนจะไม่สามารถซื้อตั๋วรายเดือนแบบนักเรียนได้
- ซื้อผ่านที่ขายตั๋วรายเดือนตามสถานี แนะนำให้ซื้อผ่านช่องทางนี้ เพราะจะได้ลงทะเบียนบัตรได้ เมื่อทำสูญหายสามารถขอออกบัตรใหม่ได้
*กรณีที่จะซื้อรายเดือนในราคานักเรียน ต้องนำใบรับรองสถานะนักเรียนมายืนยันตนเพื่อซื้อในราคาที่ถูกลงได้
- ซื้อผ่านอินเทอร์เน็ต โดยจะต้องเช็คสายรถไฟที่จะบริการและสืบค้นและลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ของสายรถไฟนั้น
วิธีการตรวจสอบราคา
สามารถเช็คราคาได้ผ่านทางเว็บไซต์นี้ (https://www.navitime.co.jp/transfer/pass/)
1.ให้ใส่ชื่อสถานีที่เริ่มต้น(หมายเลข1) และสถานีปลายทาง(หมายเลข2) กรณีที่มีหลายสายรถไฟให้ระบุสถานีที่เลือกให้ผ่าน(หมายเลข3)
2.จากนั้นให้ใส่วันที่จะเริ่มใช้ (หมายเลข4)
3.เลือกประเภทของบัตร (หมายเลข5)
4.สุดท้ายกดที่ปุ่มค้นหา(หมายเลข6)
เว็บไซต์ก็จะเลือกสายรถไฟและคำนวณราคาแบบ 1 เดือน 3 เดือน และ 6 เดือนออกมาให้