fbpx

เกี่ยวกับการเช่าห้องในญี่ปุ่น

หลายท่านที่อาจจะไม่เคยมีประสบการณ์การอาศัยที่ญี่ปุ่นเป็นระยะเวลานาน อาจะไม่ทราบว่าโดยปกติแล้วการเช่าห้องพักที่ประเทศญี่ปุ่นจะมีเงื่อนไขและขั้นตอนต่างๆ ที่อาจเหมือนหรือต่างจากการเช่าห้องที่ประเทศไทยอย่างไร โดยปกติแล้วการเช่าห้องจะมีข้อควรรู้ดังต่อไปนี้

1.ควรจองห้องพักได้ 1 เดือนล่วงหน้าเท่านั้น

หากต้องการเช่าที่พัก แนะนำให้จองล่วงหน้ามากที่สุดเพียงแค่ 1 เดือนเท่านั้น  เนื่องจากความต้องการเช่าที่พักในประเทศที่ญี่ปุ่นมีมากกว่าจำนวนที่พักอาศัยจริง จึงทำให้มีการแข่งขันการจองที่พักสูงขึ้น  ดังนั้น เจ้าของที่พักจะไม่นิยมเก็บห้องพักให้ผู้ที่จะเช่าล่วงหน้าเป็นระยะเวลาหลายๆเดือนได้ เพราะจะเป็นการตัดโอกาสตนเองในการเก็บค่าเช่า และโอกาสผู้อื่นในการจองห้องนั้นๆ

2. ค่าแรกเข้าประมาณ 3-4 เท่าของค่าเช่ารายเดือน

หากทำการจองห้องพักและตรวจสอบผู้เช่าเรียบร้อยแล้ว ก็จะถึงขั้นตอนการจ่ายเงิน โดยการจ่ายเงินครั้งแรกนั้นจะเรียกว่า “ค่าแรกเข้า” ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะมีจำนวนเป็น 3-4 เท่าของค่าเช่ารายเดือน เนื่องจากผู้ที่จะเข้าพักจำเป็นจะต้องชำระค่าใช้จ่ายอื่นๆที่จำเป็นด้วย การจ่ายค่าเช่าในเดือนแรกอาจรวมไปถึงค่ามัดจำ ค่าประกัน ค่าค้ำประกัน และอื่น

3.ที่พักแบบแมนชั่นหรืออพาร์ทเม้นต์จะไม่มีเฟอร์นิเจอร์ใดๆ

ห้องพักที่ญี่ปุ่นจะไม่มีเฟอร์นิเจอร์ใดๆให้แม้แต่ชิ้นเดียว จะมีเพียงห้องว่างเปล่าเท่านั้น ซึ่งหากลูกค้าท่านใดต้องการเช่าห้องพักแบบแมนชั่นหรืออพาร์ทเม้นต์ ก็จำเป็นจะต้องหาซื้อหรือเลือกใช้บริการเช่าเฟอร์นิเจอร์ รวมไปถึงบางห้องก็ไม่มีหลอดไฟในห้องด้วย ผู้เช่าควรตรวจสอบรายละเอียดของห้องให้ดีก่อนตัดสินใจเลือกห้อง

4.ข้อกำหนดสำหรับชาวต่างชาติ

บางห้องพักอาจมีข้อกำหนดพิเศษไว้ว่า “หากเป็นชาวต่างชาติจะเช่าห้องพักได้ค่อนข้างยาก” หรือ “ในกรณีที่เป็นชาวต่างชาติจะต้องจ่าค่ามัดจำเพิ่ม” เป็นต้น แต่ทั้งหมดนี้จะขึ้นอยู่กับเจ้าของห้องพักแต่ละที่กำหนดเงื่อนไขการรับผู้เช่าแตกต่างกันไป ซึ่งที่พักจำนวนไม่น้อยก็ยินดีต้อนรับชาวต่างชาติเช่นกัน

5.จำเป็นจะต้องเข้าระบบบริษัทค้ำประกันแทน

การเช่าห้องที่ญี่ปุ่นในอดีตจำเป็นต้องมีคนค้ำประกันให้ แต่ปัจจุบันห้องเช่าส่วนมากจะบังคับให้ผู้เช่าเข้าระบบบริษัทค้ำประกันแทนการใช้ผู้ค้ำรายบุคคลเพื่อความสะดวกและความไว้วางใจของเจ้าของห้อง ซึ่งบริษัทค้ำประกันจะเป็นตัวแทนในการค้ำประกันให้ผู้เช่านั่นเอง โดยจะมีหน้าที่ในการรับความเสี่ยงแทนในกรณีที่ผู้เช่าไม่จ่ายค่าห้อง หรือเกิดเหตุไม่คาดคิดเกี่ยวกับการค้างชำระเงินขึ้น ซึ่งบริษัทค้ำประกันจะดำเนินการชำระหนี้หรือส่วนค้างชำระให้เจ้าของห้องก่อนแล้วจึงมาเรียกเก็บกับผู้เช่าอีกครั้งในภายหลัง ซึ่งผู้เช่าทุกคนจำเป็นจะต้องเข้าระบบบริษัทค้ำประกันและจ่ายเงินค่าค้ำประกันด้วย (ทั้งนี้อาจจะมีบางห้องพักที่จำเป็นต้องใช้คนค้ำประกันเท่านั้น)

6.ประกันอัคคีภัยหรือภัยพิบัติ

การเช่าห้องพักที่ญี่ปุ่นจะต้องเข้าร่วมประกันอัคคีภัยหรือประกันภัยพิบัติของบริษัทที่เจ้าของห้องกำหนดด้วย และห้องส่วนมากผู้เช่าจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนนี้เอง โดยค่าประกันปกติจะอยู่ที่ 3 พันบาทเป็นต้นไป (ในระยะเวลา 2 ปี)

7.ต้องหาที่พักผ่านบริษัทเอเจนซี่หรือนายหน้าเท่านั้น

เนื่องจากที่ประเทศญี่ปุ่นนั้น เจ้าของห้องพักจะไม่นำห้องมาประกาศให้เช่า หาผู้เช่าหรือลงเว็บประกาศเอง แต่เจ้าของห้องจะนำห้องไปฝากไว้กับเอเจนซี่/บริษัทรับดูแลห้องเพื่อให้หาผู้เช่าให้ ดังนั้นผู้ที่ต้องการเช่าจะไม่สามารถติดต่อกับเจ้าของห้องพักได้โดยตรง และจะต้องติดต่อผ่านเอเจนซี่หรือนายหน้าเท่านั้น

ปรึกษา LandHousing ผ่าน LINE คลิกเลย! 

8. ข้อมูลห้องเช่าโดยพื้นฐานที่ผู้เช่าสามารถทราบได้ ในตอนที่พิจารณาห้องจะประกอบไปด้วยข้อมูลดังนี้

  • ชื่อที่พัก: ชื่อตึก หรือ ชื่ออาคารนั้น
  • ที่อยู่/ที่ตั้ง: สถานที่ตั้งของอาคารนั้น
  • ขนาดของห้อง: ขนาดของห้องที่กำหนดมาเป็นตารางเมตร
  • ประเภทของห้อง :

– 1R(ห้องเดี่ยว)

– 1K (ห้องเดี่ยวพร้อมห้องครัว)

– 1LDK (ห้องเดี่ยว ห้องครัวและพื้นที่รับประทาน และห้องนั่งเล่น)

– 2LDK (ห้องเดี่ยว 2 ห้อง ห้องครัวและพื้นที่รับประทาน และห้องนั่งเล่น)

  • อุปกรณ์อำนวยความสะดวกในห้อง : แอร์ ตู้เสื้อผ้า เตาแก๊ส ระบบห้องครัว เครื่องทำน้ำอุ่น ที่วางเครื่องซักผ้า และ อื่นๆ

ทำความรู้จักกับสิ่งอำนวยความสะดวกในบ้านญี่ปุ่น  >> CLICK : http://th-lh.com/category/equipment/ <<