“ไม่อยากจ่ายแพง” “ชอบดูยูทูปแต่เน็ตไม่พอ” “ไม่ค่อยได้ใช้โทรศัพท์” แต่ละคนอาจมีไลฟ์สไตล์และการใช้งานโทรศัพท์ที่แตกต่างกันออกไปตามความชอบ และหลายคนก็อาจยังไม่คุ้นเคยกับแพลนโทรศัพท์ที่ญี่ปุ่น วันนี้เราอยากจะพาทุกคนไปชมวิธีการเลือกแพคเกจโทรศัพท์ง่ายๆ ให้คุ้มและตรงกับการใช้งานที่สุดกัน

ถามตัวเองว่า “เน้นการใช้งานแบบไหน?”

ถ้าถามถึงการใช้งาน หากเป็นแพคเกจที่สามารถโทรได้เยอะและเล่นเน็ตได้เยอะแล้ว ก็แน่นอนว่าค่าใช้จ่ายรายเดือนก็จะแพงตามไปด้วย เพราะฉะนั้นการเลือกจุดประสงค์หลักในการใช้งาน ก็จะช่วยให้เรารู้ว่าควรเน้นไปที่การใช้งานแบบใดดีที่สุด 

เน้นราคาประหยัดเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายแต่ละเดือน　➡ ดูที่ราคาเป็นหลัก หรือ「料金」ในภาษาญี่ปุ่น　

เน้นเล่นเน็ตเร็วแรงไม่สะดุด　➡ ดูที่ความเร็วต่อเนื่อง หรือ「通信速度」ในภาษาญี่ปุ่น　

เน้นชมคลิปหรือโหลดไฟล์หนักๆ　➡ ดูที่ความเร็วสูงสุด หรือ「データ容量」ในภาษาญี่ปุ่น

เน้นโทรติดต่อทางโทรศัพท์　➡ ดูที่นาทีการโทรต่อเดือน หรือ「音声オプション」ในภาษาญี่ปุ่น

เน้นราคา 「料金」

โดยปกติแต่ละค่ายก็จะมีการออกโปรโมชั่นและแพคเกจต่างๆมาแข่งขันกัน โดยก่อนหน้านี้ที่ญี่ปุ่นจะบังคับซื้อเครื่องโทรศัพท์พร้อมกับซิมภายในประเทศ โดยเราจะไม่สามารถนำSIMไปใส่เครื่องต่างประเทศได้ แต่ปัจจุบันได้มีการปรับเปลี่ยนให้มี Free SIM ที่สามารถใส่ในเครื่องต่างประเทศและรับสัญญาณได้ตามปกติ  ทำให้หลากหลายค่ายก็ออกแพคเกจโทรและอินเทอร์เน็ตมาแข่งขันในด้านราคากัน สำหรับใครที่เน้นความประหยัด/งบที่จำกัด ควรพิจารณาจากรายเดือน ค่าแรกเข้า ไปจนถึงค่าใช้จ่ายหากยกเลิกก่อนระยะเวลาขั้นต่ำที่ระบุไว้

เน้นความเร็วต่อเนื่องของอินเทอร์เน็ต「通信速度」

คนที่อยากเน้นส่วนนี้ก็แนะนำให้ดูความเร็วต่อเนื่องของอินเทอร์เน็ตว่า นโยบายของค่ายมือถือนั้นๆ เป็นอย่างไร กำหนดไว้ความเร็วต่อเนื่องไว้ที่เท่าไหร่ ซึ่งจะส่งผลกับการดาวน์โหลดหน้าต่างที่เราต้องเข้าไป จึงแนะนำให้เลือกใช้แพคเกจที่ความเร็วต่อเนื่องของอินเทอร์เน็ตไม่ลดลงเมื่อใช้ไปเรื่อยๆ 

เน้นความเร็วสูงสุด「データ容量」

ความเร็วสูงสุดของอินเทอร์เน็ตแล้วปกติจะเริ่มตั้งแต่ 3GB ไปจนถึง 21GB โดยราคาก็จะสูงตามขนาดความเร็ว โดยสำหรับผู้ที่ชอบดูคลิปวิดีโอหรือใช้งานที่ต้องโหลดไฟล์ขนาดใหญ่ แนะนำให้เลือกใช้แบบ 10GB ขึ้นไปเพื่อให้ใช้งานได้ไม่ติดขัด โดยสิ่งที่ควรทราบคือ อินเทอร์เน็ตที่ญี่ปุ่นในปัจจุบันส่วนมากจะเป็น Unlimited ก็จริงแต่หลังจากที่ใช้งานจนครบความเร็วสูงสุดแล้วก็จะมีการลดความเร็วลงเช่นเดียวกับที่ไทย 

เน้นนาทีการโทรต่อเดือน 「音声オプション」

นาทีการโทรก็เป็นอีกตัวเลือกในการตัดสินใจเลือกแพคเกจ เพราะที่ญี่ปุ่นจะต่างจากที่ไทยตรงที่จะมีการกำหนดนาทีที่โทรฟรีต่อครั้ง เช่น โทรฟรีในประเทศครั้งละ 10 นาทีและนาทีถัดๆไปจะมีค่าธรรมเนียมได้ ซึ่งจะต่างจากที่ไทยที่จะกำหนดมาเป็นจำนวนโทรฟรีรายเดือน รวมทั้งควรตรวจสอบว่าหมายเลขของเครื่อข่ายนั้นจะสามารถติดต่อเบอร์ญี่ปุ่นพิเศษอย่างที่เริ่มด้วย 050 ต่างๆได้หรือไม่

สำหรับชาวต่างชาติแล้วLandHousing ก็มีบริการเสริมอำนวยความสะดวกให้กับคนไทยที่กำลังมองหาแพ็คเกจโทรและเน็ตในญี่ปุ่นเช่นกัน หรือสำหรับท่านใดที่กำลังมองหาแพ็คเกจโทรศัพท์ที่เหมาะกับตัวคุณแล้วละก็สามารถติดต่อมาทาง LandHousing เพื่อหาแพ็คเกจเบอร์โทรและอินเทอร์เน็ตญี่ปุ่นที่คุ้มค่าที่สุด

>>> ดาวน์โหลดเอกสารรายละเอียด GTN package <<<

● Inbox Facebook : Landhousing Thailand
● Tel: 02-048-2271/ 080-3503-1594 (ติดต่อสต๊าฟคนไทยที่ญี่ปุ่นโดยตรง)
● Line@ : @landhousing
● e-mail : thailand@landhousing.co.jp