ถึงแม้ช่วงนี้จะอยู่ในช่วงวิกฤติโควิด-19 ทำให้หลายท่านที่มีแพลนการไปเรียนต่อต่างๆ จะต้องเลื่อนแผนการเดินทางออกไปก็ตาม ช่วงนี้จึงถือเป็นโอกาสในการมองหา พิจารณา และเลือกคอร์สเรียนต่างประเทศอย่างญี่ปุ่น คอร์สเรียนที่ญี่ปุ่นจะมีแบบใดบ้าง ควรเลือกคอร์สเรียนอย่างไร วันนี้เรามีข้อแนะนำมาให้ดูกัน
ทำความเข้าใจว่า จุดประสงค์ในการเรียนคืออะไร?
- เพื่อศึกษาวัฒนธรรม
- เพื่อพัฒนาภาษาญี่ปุ่นทักษะ ฟัง พูด อ่าน เขียน ➡ สอบ JLPT (日本語能力試験)
- เพื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัยญี่ปุ่น ➡ สอบ EJU (日本留学試験) เพื่อนำไปยื่น
- เพื่อเรียนต่อปริญญาโท/วิทยาลัยเฉพาะทาง ➡ เตรียมร่างแผนการทำวิจัยเพื่อนำไปยื่น
- เพื่อนำไปใช้ในการทำงาน ➡ มองหาความถนัดเฉพาะด้าน
การเลือกคอร์สเรียน
ระยะสั้น
คอร์สเรียนภาษาญี่ปุ่นระยะสั้นจะมีตั้งแต่ 1 สัปดาห์-3 เดือน โดยปกติแล้วจะต้องใช้วีซ่าระยะสั้นในการเข้าประเทศญี่ปุ่น ค่าใช้จ่ายและคอร์สเรียนอาจต่างกันไปตามจุดประสงค์ของผู้เรียน สำหรับคอร์สระยะสั้นแบบนี้เหมาะกับผู้ที่ต้องการเน้นทักษะในการพูดและฟังขั้นพื้นฐาน และเน้นการสื่อสารเบื้องต้นในชีวิตจริง เช่น การทักทาย การพูดคุยกับเพื่อนง่ายๆ การไปซื้อของ เป็นต้น รวมทั้งคอร์สเรียนขั้นพื้นฐานในหลายโรงเรียนยังเน้นไปที่กิจกรรมนอกการเรียน ที่เน้นในนักเรียนได้สัมผัสความเป็นญี่ปุ่นในระหว่างที่อยู่ด้วย
ข้อดีของการเริ่มเรียนคอร์สระยะสั้นก็คือ ผู้เรียนสามารถทดลองเรียนและพิจารณาว่าตนเองชอบการเรียนการสอนสไตล์ที่นั่นหรือไม่ ถ้าหากชอบก็ยังสามารถต่อคอร์สไปเป็นระยะปีโดยยื่นขอต่อวีซ่าได้ไม่มีปัญหา
เหมาะสำหรับคนที่มีจุดประสงค์แบบไหน
➡เพื่อศึกษาวัฒนธรรม
➡เพื่อพัฒนาภาษาญี่ปุ่นทักษะ ฟัง พูด อ่าน เขียน
ระยะยาว
คอร์สเรียนระยะยาว หรือคอร์สที่มีระยะเวลา 1-2 ปี โดยจะต้องใช้วีซ่าระยะยาวในการอาศัยซึ่งปกติแล้วทางโรงเรียนจะยื่นเรื่องทำวีซ่าครั้งแรก 1 ปี 3 เดือนให้กับผู้เรียน คอร์สเรียนระยะยาวจะช่วยเสริมสร้างพื้นฐานภาษาญี่ปุ่นให้แข็งแรงและสามารถนำไปต่อยอดได้ในอนาคต เช่น บางท่านอาจจะเปลี่ยนเป้าหมายจากที่พอจะสื่อสารได้ ไปเป็นการสอบวัดระดับภาษา ซึ่งส่งผลดีต่อการนำไปใช้ในการทำงาน เป็นต้น
ข้อดีของระยะยาวนั้น แน่นอนว่าด้วยระยะเวลาที่ยาวกว่าทำให้ผู้เรียนมีเวลาที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับญี่ปุ่นได้ในหลายๆ ด้านมากกว่า รวมทั้งสามารถซึมซับภาษาญี่ปุ่นในชีวิตประจำวันได้มากยิ่งขึ้น ดังนั้นนอกจากการพัฒนาระดับภาษาแล้ว การไปเรียนรู้ในญี่ปุ่นอาจช่วยให้ค้นหาแนวทางในอนาคตได้ด้วย เช่น การทำงานโดยใช้ภาษาญี่ปุ่น การเรียนต่อปริญญาโทในสาขาที่สนใจมากขึ้น เป็นต้น
เหมาะสำหรับคนที่มีจุดประสงค์แบบไหน
➡เพื่อพัฒนาภาษาญี่ปุ่นทักษะ ฟัง พูด อ่าน เขียน (มุ่งเน้นไปที่ JLPT N3-N1)
เรียนตามระดับที่สอบประเมินก่อนเรียนได้ และได้พัฒนาตามโปรแกรมการเรียนของโรงเรียนนั้นๆ
➡เพื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัยญี่ปุ่น
เลือกคอร์สที่มีการสอนทั้งภาษาญี่ปุ่นและการสอบอื่นๆเพิ่มเติม เช่น คอร์ส EJU เพื่อสอบและนำคะแนนไปยื่นกับมหาวิทยาลัย
➡เพื่อเรียนต่อปริญญาโท/วิทยาลัยเฉพาะทาง
เลือกสาขา/ความถนัดเฉพาะทางที่สนใจ พร้อมทั้งในโรงเรียนสอนภาษาหลายโรงเรียนจะมีคอร์สเตรียมตัวเรียนต่อป.โท ซึ่งจะดูแลไปถึงการช่วยนักเรียนเขียน Study plan ที่จะยื่นทำวิจัยตอนสอบเข้าป.โท ของมหาวิทยาลัยนั้นๆ
➡เพื่อนำไปใช้ในการทำงาน
พัฒนาทักษะภาษาญี่ปุ่นที่ใช้ในการทำงานที่เกี่ยวข้องกับภาษาญี่ปุ่น เช่น รูปยกย่อง-ถ่อมตัว (敬語) ไปจนถึงมารยาทในทางธุรกิจญี่ปุ่น เป็นต้น
ประเภทคลาสเรียน
- ห้องเรียนรวม
จำนวนนักเรียนต่อคลาสขึ้นกับระดับภาษารวมทั้งนโยบายของแต่ละโรงเรียนที่จะจำกัดจำนวนเด็ก โดยทั่วไปมักจะอยู่ที่ 15-30 คน ต่อ 1 คลาส
2. กลุ่ม
สำหรับคนที่ต้องเรียนพิเศษและใกล้ชิดกับผู้สอนมากขึ้น บางโรงเรียนอาจมีการเปิดสอนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 3-5 คน
3. ส่วนตัว
สำหรับคนใดที่ต้องการความเป็นส่วนตัวสูง/ความเข้มข้นในการสอนมาก ก็สามารถเลือกเรียนตัวต่อตัวได้ แต่ราคาจะสูงกว่าประเภทคลาสเรียนอื่นๆ
*ทั้งนี้เนื้อหาของแต่ละคอร์สและโรงเรียนอาจต่างกันออกไป